วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 17 ข่าวITใหม่ๆ

ZALMAN CNPS10X OUIET


สำหรับซีพียุคุลเลอร์จากทาง ZALMAN ที่เราจะได้มาว่ากันนั้นมาในโมเดลที่มีชื่อว่า CNPS10X QUIET และเมื่อได้ยินชื่อโมเดลตรงนี้แล้ว คิดว่าหลายๆคนในที่นี้อาจจะคุ้นๆหูคุ้นๆตากันว่าทางเราก็เคยได้มีการทดสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่ผิดนักทางเราเองก็ได้เคยมีการทดสอบไปครั้งหนึ่งสำหรับซีพียุคุลเลอร์ในตระกูลดังกล่าวนี้ หากแต่ในครั้งนั้นจะเป็นโมเดล CNPS10X Extreme ที่มีชื่อชั้นสูงกว่าในโมเดลที่นำมาให้ชมในวันนี้ แต่สำหรับภาพรวมทางด้านรูปทรงนั้นก็ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก จะมีความแตกต่างกันก้เพียงเล็กๆน้อยๆในบางจุด ส่วนจะมีอะไรแตกต่างอย่างไรบ้างนั้น เอาไว้เรามาติดตามชมกันจากเนื้อหาทั้งหมดที่เราจะได้นำเสนอต่อจากนี้ไป แต่ก่อนที่จะไปเข้าเรื่องกันนั้นก็อยากให้เพื่อนๆได้ลองย้อนกลับไปทบทวนกันอีกครั้งสำหรับบททดสอบของ ZALMAN CNPS10X Extreme ว่ามันนั้นจะมีรูปร่างหน้าตารวมถึงประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง จากนั้นเราก้กลับเข้ามาสู่เรื่องราวของเราในวันนี้กันต่อเลยนะครับสำหรับ ZALMAN CNPS10X QUIET...







เข้าเรื่องกันมาก็ขอเริ่มกันที่รูปร่างหน้าตาของตัวแพ็กเกจกันเช่นเคย สำหรับตัวแพ็กเกจของ ZALMAN CNPS10X ในรหัส QUIET ตามท้ายในวันนี้นั้น หากว่ากันที่รูปทรงการออกแบบและขนาดแล้วหละก็ทาง ZALMAN ก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากโมเดลรหัส Extreme แต่อย่างใด ความแตกต่างที่เกิดขึ้นก็เพียงสีสันที่ใช้โดยในโมเดลดังกล่าวนี้ตัวแพ็กเกจจะมีการเลือกใช้โทนสีน้ำเงินเข้มแต่ถ้าเป้นในรหัส Extreme จะมาในโทนสีดำทึบๆ
Bundled

สำหรับชุดอุปกรณ์บันเดิลนั้นบอกได้เลยว่ายกชุดกันมาเลยสำหรับซีพียุคุลเลอร์ในตระกุล CNPS10X แต่ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยสำหรับนัตยึด ที่ได้เปลี่ยนขนาดให้มีขนาดที่จับเหมาะมือขึ้นรวมทั้งเปลี่ยนวัสดุรอบนอกให้เป็นพลาสติก เพื่อให้ง่ายต่อการจับนั่นเอง ส่วนอุปกรณ์หลักๆทั้งหมดก็จะประกอบไปด้วยชุดสำหรับจับยึดใช้งานร่วมกับซีพียุจากทั้งสองค่าย สำหรับซีพียุจากทาง Intel นั้นก็รองรับได้ในทุกๆแพลทฟอร์มที่มีการใช้งานในขณะนี้นับตั้งแต่ LGA775, LGA1156 และ LGA1366 ส่วนทางฝั่งคู่แข่ง AMD นั้นก็แน่นอนว่าชุดจับยึดนับตั้งแต่การเข้ามาของแพลทฟอร์ม 939 จนถึงปัจจุบัน AM3 ที่มีลักษณะการจับยึดในลักษณะเดิมๆยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้คูลเลอร์ในโมเดลนี้ก็สามารถใช้งานร่วมกับซีพียูจากทาง AMD ได้ในทุกๆโมเดลตั้งแต่แพลทฟอร์ม 754/939 เป็นต้นมา ส่วนอุปกรณ์อื่นๆก็ประกอบไปด้วยชุดปรับความเร็วรอบพัดลมและ Thremal Grase ในโมเดล ZM-STG2
The CPU Cooler

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับรูปร่างหน้าตาของมัน ดูๆแล้วละม้ายคล้ายคลึงกับในรหัส Extreme ตามที่ได้กล่าวไว้หรือเปล่าครับ ? ซึ่งในเรื่องนี้หากจะว่าไปแล้วก็มีทั้งความเหมือนและแตกต่างคละเคล้ากันไป แต่สรุปโดยรวมแล้วนั้นก็ถือว่าแตกต่างกันไม่มากนักเพราะถอดแบบกันมาเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยในความแตกต่างจะมีจุดไหนอย่างไรบ้างนั้น เดี๋ยวในช่วงต่อไปเราจะมากล่าวถึงในแบบเจาะจงให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง



สำหรับกับรูปทรงและขนาดนั้นก็จะมีขนาดกว้างคูณยาวูณสูง ที่เท่าๆกันกับในรหัส Extreme แต่อาจจะมีความดุดันลดน้อยลงไปบ้าง กับสีสันของตัวฟินและฮีตไปป์ที่ใช้ ส่วนทางด้านของจำนวนฮีตไปป์ที่ใช้นั้น ก็ยังคงมีจำนวน 5 เส้นที่เลือกการติดตั้งในแบบ U Type ขึ้นทั้งสองด้าน ก็จะทำให้เสมือนกับมีท่อฮีตไปป์จำนวน 10 เส้นทำงานอยู่

สัปดาห์ที่ 16 ข่าวITใหม่ๆ

EVGA P55 SLI




ช่วงนี้กระแสความแรงของซีพียูบนซ๊อกเก็ต LGA1156 แรงว่าเป็นคลื่นกระแสความแรงที่ออกมาตอกย้ำกันตั้งแต่ปีใหม่ แต่ก็คงจะเป็นกระแสที่อาจจะสร้างความสับสนแก่ผู้ที่ติดตามในด้านเทคโนโลยีซ๊อกเก็ต LGA1156 กันพอสมควรเพราะว่าซีพียู Clarkdale 32 nm กับ Lynnfield 45 nm มันเป็นซ๊อกเก็ตเดียวกันแต่ชิพเซ็ตที่เกิดมคู่กันมันคนละตัวแถมยังใช้งานร่วมกันได้อีก ยังไงก็ศึกษาข้อมูลกันก่อนซื้อด้วย ไม่ใช่ว่าจะซื้อ Clarkdale 32 nm แล้วเอาไปใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดชิพเซ็ต Intel P55 Express แล้วจะมาบ่นว่าการฟฟิกการ์ดบนซีพียูใช้ไม่ได้กันอีกครับ สำหรับในวันนี้ก็จะเป็นการรีวิวเมนบอร์ดจากทางผู้ผลิตกราฟฟิกการ์ดสาวก NVIDIA หมายเลขหนึ่ง ซึ่งนั้นก็คือ EVGA ที่มันนานๆทีจะได้ออกเมนบอร์ดลงสู่ตลาด ผมยังเคยได้ยินคำพูดคนที่ไปเดินพันทิพย์เลยประมาณว่า "EVGA มันมีขายเมนบอร์ดด้วยหรือ" ก็จริงๆแล้วมันก็มีออกมาเป็นช่วงไป ในการรีวิววันนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโมเดลที่เล็กที่สุดที่มีขายในบ้านเราแล้วก็ได้กับ EVGA P55 SLI ที่ถ้าผมได้บอกว่าเป็นโมเดลเล็กที่สุดที่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราก็อย่าโกรธกันสำหรับสาวกยี่ห้อนี้ แต่ว่า EVGA P55 SLI ที่ได้มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า EVGA E655 ซึ่งผมตาดว่ามันน่าจะเป็นรหัสที่ใช้เรียกในการออกแบบเมนบอร์ดเอง มันค่อนค้างที่จะเป้นอะไรที่มันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ที่ EVGA P55 SLI นั้นได้มีกลิ่นไอความเป็นเมนบอร์ดสำหรับ Extreme User แล้วในทางด้านอุปกรณ์ออนบอร์ดที่มีให้มาบน EVGA P55 SLI เรียกได้ว่ามันมีมาให้น้องๆเมนบอร์ดระดับ Hi-End เลยด้วยซ้ำ แถมทั้งมีช่อง PCI Expressx16 มาให้เพิ่มอีกหนึ่งสล๊อต เอาไว้รองรับการใส่การฟฟิกการ์ดทาง NVIDIA ที่เอามาใช้แต่ความสามารถ PhysX ในกรณีที่เชื่อมต่อSLI โดยกราฟฟิกการ์ดสองใบไปแล้ว เอาเป็นว่าต่อจากนนี้ผมจะมาแนะนำ EVGA P55 SLI กันเป็นจุดๆไปครับ




ภาพรวมของเมนบอร์ด EVGA P55 SLI ก็ยังคงใช้ PCB ขนาด ATX แบบตามความนิยมของผู้เลือกซื้อใช้งาน ซึ่ง PCB สีดำสนิทพร้อมกับความเงาที่ช่วยทั้งด้านความสวยงามและดุดันไปในตัว ที่มีการใช้อุปกรณ์บนบอร์ดเป็นสีดำและสีเทาดำส่วนมากความหนาแน่นของอุปกรณ์อาจจะมีดูโล่งไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นเมนบอร์ดตัวรุ่นสูงสุด
ซีพียูที่รองรับก็คงจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากซ๊อกเก็ต LGA 1156 ซึ่งก็จะเป็น Core i5 และ i7 Lynnfield ที่เป็นคู่หู่กับชิพเซ็ตIntel P55 Express อยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเพียงอัพเดทไบออสล่าสุดก็จะสามารถใช้งานร่วมกับซีพียูตระกูล Clarkdale 32 nm ได้
เมโมรีที่รองรับก็ยังคงเป็นแบบ DDR3 ตามมาตาฐานของซีพียูซ๊อกเก็ต LGA 1156 กับความเร็วของเมโมรีที่ 1066/1333/1600ส่วนความเร็วรูปแบบในการโอเวอร์คล๊อกจะอยู่ที่ 2200/2600+ ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมาก ความจุที่รองรับสูงสุด 16GB
ช่อง SATA II จำนวนทั้งหมด 6 ช่องเป็นการควบคุมโดยชิพเซ็ต Intel P55 โดยพร้อมกับการรองรับการเชื่อมต่อ RAID0,1,5 และ 10 (0+1) เหมือนกับเมนบอร์ด Intel P55 ทั่วไป แต่ว่า EVGA P55 SLI นั้นไม่มีช่อง IDE P-ATA มาให้แล้ว
หัวต่อสำหรับการเพิ่มช่อง IEEE 1394a, และ USB 2.0/1.1
สล๊อตสำหรับการเชื่อมต่อกับกราฟฟิกการ์ดก็จะมี PCI Express 2.0 x16 มาสองช่อง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกราฟฟิกการ์ดATI CrossFireX และ NVIDIA SLI กับแบนวิต x8 + x8 ทาง EVGA ยังเอาใจสาวก NVIDIA ที่ชื่นชอบ PhysX โดยการใส่ PCI Express x16 ที่เป็นแบบ 1.0 x4 ใว้ใส่กราฟฟิกการ์ดเพิ่มได้อีก นอกนั้นยังมี PCI 32 BIT สองช่อง กับ PCI-e x1 ให้อีก
ภาคจ่ายไฟของ EVGA P55 SLI น่าจะเป็นแบบ 8+2 ที่จำนวนแปดเฟสที่เรียงกันเป็นแถวจะมีหน้าที่ในการจ่ายไฟให้กับส่วนหลักของตัวซีพียู ส่วนอีกสองเฟสด้านขวามือนั้นจะมีหน้าที่การจ่ายไฟให้กับ VTT ทางดานการระบายความร้อนของมอสเฟสก็ยังได้มีฮีทซิงค์สีดำ ที่มีรูปร่างอันดูดุดันโหดร้ายมีมาก รูปแบบฮีทซิงค์ที่อยู่บน EVGA P55 FTW และ EVGA P55 FTW 200
ฮีทซิงค์ระบายความร้อนของ Intel P55 Chipset ที่มีหน้าตาอาจจะเรียบง่ายไปหน่อย ซึ่งทำมาจากอลูมิเนียบชุบสีดำ
จุดนี้มันไม่ใช่ฮีทซิงค์อะไรทั้งสิ้น มันเป็นแค่เพียงไฟที่ช่วยเพิ่มความสวยงามในขณะระบบทำงาน ถ้าแสงมันแยงตาก็ถอดสายออกได้

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 15 ข่าวITใหม่ๆ

ASUS EAH5670 1GB





ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูแล้วมักจะเป็นกระแสได้อย่างต่อเนื่องเช่นกราฟิกการ์ด จนเคยมีคำพูดคำกล่าวกันว่าเดือนละรุ่นกันเลยทีเดียว หากแต่ก็ใช่ว่าจะเงียบเหงาในแบบที่ไม่มีการกล่าวถึงกันไปเลย เพราะอย่างน้อยๆแล้วเรื่องราวของการจะมาถึงของ nVidia ในตระกูลใหม่อย่าง Fermi หรือ GT200 นั้นก็ยังมีการพูดถึงกันอยู่ทุกวันในส่วนของข่าวคราวต่างๆ แต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเพียงข่าวซึ่งเรายังไม่พบเห็นการ์ดตัวจริงๆตัวเป็นๆเสียที ส่วนทางด้าน AMD นั้นในเวลานี้หลังจากมีการเปิดตัวการ์ดในตระกูล HD5600 Series ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก้เริ่มมีกระแสข่าวออกมาบ้างแล้วเช่นกันสำหรับการ์ดในซีรีย์ต่อไปที่อาจจะมีการเปิดตัวในช่วงต้นเดือนถัดไป สำหรับกราฟิกการ์ดในกลุ่มตลาดล่างอย่างแท้จริงกับ ATI Radeon HD5500Series และ HD5400Series ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอชมกันต่อไปเมื่อเวลานั้นมาถึง ส่วนในวันนี้สำหรับเรื่องราวของเราก็ยังคงเกาะติดอยู่กับกระแสของ ATI Radeon HD5670 ที่จัดได้ว่าเป็นการ์ดในตระกุลล่าสุด ณ เวลานี้จากทาง AMD-ATI โดยในวันนี้กราฟิกการ์ดที่ได้รับมาทำการทดสอบนั้น น่าจะเป็นอีกตัวหนึ่งที่หลายๆท่านอาจจะเฝ้ารอชมกันอยู่ สำหรับกราฟิกการ์ดจากแบรนด์ใหญ่เจ้าพ่อเมนบอร์ดอย่าง ASUS กับกราฟิกการ์ดในโมเดล ASUS EAH5670 1GB นั่นเอง สำหรับกราฟิกการ์ดจากทาง ASUS ในระยะหลังมานี้และยิ่งกับกราฟิกการ์ดจากทาง ATI แล้วนั้นทาง ASUS มักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษของตนเองสำหรับฟีเจอร์ Voltage Tweak ในแทบจะทุกโมเดล ส่วนในวันนี้กับกราฟิกการ์ดในระดับกลางๆนั้นเราต้องมาลองติดตามชมกันดูว่าทาง ASUS นั้นจะยังคงมีฟีเจอร์พิเศษดังกล่าวนี้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองหรือไม่ หรือจะยังมีอะไรที่มีความพิเศษแตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆอย่างไร ซึ่งเราจะได้รับคำตอบโดยทั้งหมดอย่างแน่นอนในวันนี้


สำหรับตัวแพ็กเกจของกราฟิกการ์ดนั้นทาง ASUS ยังคงเลือกใช้ลวดลายและสีสันที่คุ้นเคยกันดีหากเป็นกราฟิกการ์ดจากทาง ATI และหากใครที่สังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างกับหนึ่งในฟีเจอร์พิเศษที่ระบุมาบนตัวแพ็กเกจ ซึ่งคือฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Dust-Proof Fan และยังมีการระบุมาอีกด้วยว่าจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้กว่า 25% ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะมีหลักการทำงานอย่างไรและมีหน้าที่อะไรนั้น เดี๋ยวเราจะได้มีการกล่าวถึงอีกครั้งในช่วงต่อไป ส่วนทางด้านของอุปกรณ์บันเดิลนั้นครั้งนี้ทาง ASUS ค่อนข้างมาแปลกกว่าทุกครั้ง ที่เราจะไม่พบเห็นอุปกรณ์เสริมอย่างหัวแปลงทั้ง DVI to D-sub หรือ HDMI to DVI แม้แต่ชิ้นเดียวจะมีก็เพียงแผ่น Driver และคู่มือการใช้งานมาให้เท่านั้น ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นการลดต้นทุนลงไปเพื่อจะได้จำหน่ายการ์ดในราคาที่ถูกที่สุดก็เป็นได้

ที่มา http://www.overclockzone.com

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 14 ข่าวITใหม่ๆ

GIGABYTE H55M-UD2H - Tests




สำหรับเทคโนโลยีและข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ หากว่าจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้เห็นการ์ดตัวจริงตัวเป็นๆเสียที พักจากเรื่องของกราฟิกการ์ดหันกลับมาที่เรื่องของเราในวันนี้กันดีกว่า สำหรับในวันนี้เรื่องราวของเราจะยังคงเกาะติดอยู่กับการมาถึงของซีพียูในยุคสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับขนาดกระบวนการผลิตในระดับ 32nm ที่ใช้รหัสการผลิตว่า Westmere จากทาง Intel แต่เรื่องที่เราจะได้มากล่าวถึงนั้นมิใช่เรื่องของซีพียูโดยตรงแต่...จะเป็นสิ่งที่มักจะมาคู่กันด้วยเสมอนั่นก็คือเมนบอร์ดในโมเดลใหม่ๆ โดยในวันนี้เมนบอร์ดที่เราจะได้มาทำการทดสอบให้ได้ชมกันนั้นเป็นอีกหนึ่งเมนบอร์ดจากผู้ผลิตรายใหญ่ในนาม GIGABYTE กับเมนบอร์ดในโมเดล H55M-UD2H นั่นเอง และหากเรามองกันจากชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์นั้นเราก็คงพอจะทราบได้บ้างแล้วว่าเมนบอร์ดในโมเดลนี้มาพร้อมกับชิบเซตในรหัสใด ส่วนใครที่ยังมองกันไม่ออกหรือไม่ทราบจริงๆนั้น ก็สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับเมนบอรืดตัวนี้ได้จาก First Look GIGABYTE H55M and H57M Motherboard โดยที่ท่าน Tor_Za ของเรานั้นได้มีการนำเสนอมาให้ได้ชมกันโดยละเอียดแล้ว ขาดแต่ก็เพียงเรื่องของบททดสอบ และในวันนี้ก็คงถึงเวลาของบททดสอบกันเสียที และผลงานความสามารถของมันนั้นจะทำได้ดีเพียงไร จะน่าประทับใจดังเช่นที่เคยเป้นมาหรือเปล่า เราไปติดตามชมกันเลยครับ




หยิบยกมาให้ได้ชมกันในแบบคร่าวๆอีกสักครั้งสำหรับหน้าตาของ GIGABYTE H55M-UD2H ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในเมนบอร์ดที่มาพร้อมกับชิบเซตในรหัส Intel H55 และตัวเมนบอร์ดเองนั้นก็มาในขนาด m-ATX ที่ดูเหมือนว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในเวลานี้ ส่วนจุดที่น่าสนใจที่อาจจะกล่าวได้ว่าโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆนั้น เห็นจะเป็นในบริเวณ Back I/O Panel ที่มีพอร์ทสำหรับการเชื่อมต่อสู่การแสดงผลมาให้ได้เลือกใช้กันมากกว่าแบรนด์อื่นๆ โดยจะประกอบไปด้วย D-Sub, DVI, HDMI และ Display Port เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งประเภทนั่นเอง
ที่มาจาก http://www.overclockzone.com

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 13 ข่าวITใหม่ๆ



สำหรับวันนี้จะเป็นการรีวิวเมโมรีการ์ดยอดนิยม ที่อุปกรณ์หลากหลายประเภทนั้นได้มาเลือกที่จะรองรับเมโมรีการ์ดชนิดนี้กันมากขึ้นนั้นก็คือ SDHC ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นที่ให้ความบันเทิงแบบพกพา ,คอมพิวเตอร์แบบที่พกพาทั้ง Pocket PC จนไปถึงโน๊ตบุ๊ค ,กล้องดิจิตอลขนาดเล็กจนถึงกล้องประเภท D-SLR และอื่นๆ เนื่องมากจากที่ว่าความเร็วของSecure Digital ที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความจุที่สูงแต่คงมีขนาดเพียงเท่าเดิม สำหรับตัวSecure Digital 2.0 หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า SDHC ในการทดสอบวันนี้ก็มาจากผู้ผลิตอย่าง SILICON POWER ที่เป็นผู้ผลิตทั้ง Flash Memory และ Memory ระดับแนวหน้าของโลกเลยก็ว่าได้ แต่ในตลาดเมืองไทยนั้นอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับผู้ผลิตเมโมรีอย่าง SILICON POWER ซึ่ง SDHC ที่ทางโอเวอร์คล๊อกโซนได้รับมาทำการทำสอบนั้นจะมีความจุที่ 16GB และเป็น SD 2.0แบบ Class 10 ซึ่งเท่าที่ผมได้นอนศึกษาตอนไม่สบายก็พบว่า SD 2.0 Class10 จะเป็นการบ่งบอกถึงความเร็วในการเขียนข้อมูลลงไปที่ได้ถึง 10 MB/s ก็เป็นมาตาฐานที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อประมาณช่วงกลางปี 2009 ที่ผ่านมา แต่แปลกดีเหมือนกัน Secure Digital ที่แบ่งระดับชั้นจากการเขียนข้อมูล แต่ผมว่ามันเป็นจุดที่ใช้เจาะตลาดกลุ่มผู้ผลิตกล้อง D-SLR แน่ๆเลย






ที่มา http://overclockzone.com

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 12 ข่าวITใหม่ๆ

เลอโนโวเปิดตัว “เน็ตบุ๊ค (Netbook)” สู่ตลาด ประเทศไทยด้วยดีไซน์สุดเก๋ในรุ่นไอเดียแพด S9 และไอเดียแพด S10 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ การออกแบบที่เล็กและบางเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน หรือคิดจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเป็นเครื่องแรก โดยผู้ใช้งานสามารถทำงานโปรแกรมง่ายๆ ได้จากเน็ตบุ๊คเครื่องนี้ อาทิเช่น เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช็คและรับส่งอีเมลล์ ฟังเพลง หรือทำงานในโปรแกรมพื้นฐานต่างๆ ทั้งนี้ ไอเดียแพด S9 และไอเดียแพด S10 จากเลอโนโวมีดีไซน์ที่บางเบาพิเศษ ด้วยความหนาเพียงแค่ 1 นิ้ว และหนักประมาณ 0.9 กิโลกรัม

ภิญโญ สงวนเศรษฐกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับคอนซูเมอร์ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ไอเดียแพด เน็ตบุ๊ค เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เลอโนโวได้เปิดตัวให้กับกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นตามแบบฉบับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และวิศวกรรมที่โดดเด่นของเลอโนโว ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคเองต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสามารถพกพาได้อย่างสะดวก และมีฟังก์ชั่นการทำงานที่มีประสิทธิภาพครบครัน ในรูปลักษณ์ที่เล็กกะทัดรัด และอยู่ในราคาที่สามารถหาซื้อได้ ซึ่งเลอโนโวก็ได้ออกแบบเน็ตบุ๊คของเราในวันนี้เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น”
ผลการสำรวจและคาดการณ์ล่วงหน้าจากไอดีซี (IDC) ระบุว่า สัดส่วนความต้องการในตลาด เน็ตบุ๊คกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก อัตราการขนส่งโน๊ตบุ๊คที่มีราคาย่อมเยาว์เป็นพิเศษนั้น จะเพิ่มขึ้นจาก 430,000 เครื่องในปี พ.ศ. 2550 เป็น 9.2 ล้านเครื่องในปี พ.ศ. 25551
ผสมผสานด้วยสไตล์ สีสันและความสะดวกสบายอย่างลงตัว
ไอเดียแพด S9 หน้าจอขนาด 8.9 นิ้ว และไอเดียแพด S10 หน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว ตัวเครื่องสีดำเงา สีขาวมุก ชมพูมันวาว เพื่อความสะดวกสบายและรับรู้ถึงประสบการณ์ เลอโนโวได้ออกแบบคีย์บอร์ดให้มีขนาดประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทั่วไป และด้วยหน้าจอ LED แบบแบล็คไลท์ รุ่นประหยัดพลังงาน จึงช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นกว่าหน้าจอทั่วไป


เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สะดวกมากขึ้น เน็ตบุ๊ครองรับเทคโนโลยี WiFi และบลูทูธ และยังมีช่อง Express Card สำหรับลูกค้าที่ต้องการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการติดต่อผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) เน็ตบุ๊คจากเลอโนโวมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ช่วยเอื้อต่อการใช้งานดังกล่าว อาทิเช่น มีกล้อง Web camera ในตัวสำหรับสนทนาผ่านทางวิดีโอ และด้วย USB port 2 ช่องและตัวอ่านการ์ด Multicard reader แบบ 4-in-1 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่นได้อย่างง่ายดายเพื่อแลกเปลี่ยนหรือส่งรูป เพลงและวิดีโอต่างๆ ได้ ทั้งนี้ ไอเดียแพ็ด เน็ตบุ๊ค รองรับการทำงานทั้งระบบ Microsoft Windows XP และ Linux
ไอเดียแพด เน็ตบุ๊ค ใช้เทคโนโลยีหน่วยประมวลผล Intel® Atom™ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานครบครันเสมือนเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องที่สอง พร้อมด้วยหน่วยความจำในตัวเครื่องขนาด 1GB และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ความจุ 160 GB หรือฮาร์ดดิสก์แบบ solid state drive (SSD) ความจุ 4 GB มอบประสบการณ์เหนือชั้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นคลังเพลงดิจิตอลหรือไฟล์งานข้อมูลต่างๆ เน็ตบุ๊คจากเลอโนโวถูกออกแบบมาให้สามารถช่วยลดความร้อนในจุดหลักๆ ที่เครื่องระบายความร้อนออกมา อาทิเช่น บริเวณใต้ตัวเครื่อง ที่วางมือและคีย์บอร์ด นอกจากนี้ สำหรับเน็ตบุ๊คที่ทำงานด้วยโปรแกรม Microsoft Windows จะมีระบบการกู้ข้อมูลกลับคืนในปุ่มเดียว (OneKey™ Recovery) ลิขสิทธิ์เฉพาะของเลอโนโว ที่ช่วยนำข้อมูลทั้งหมดกลับสู่สภาพเดิมได้ในหนึ่งสัมผัสเมื่อเกิดความผิดพลาดบนระบบหรือเครื่องติดไวรัส



ที่มา. http://www.techxcite.com/content.php/2/1257/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7+%E2%80%9C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%84%E2%80%9D+%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C/

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 11 ข่าวITใหม่ๆ


สำหรับเม้าส์ Roccat Kone นั้น เป็นเม้าส์ Laser มีความละเอียดที่ 3200dpi, ถือว่าเพียงพอในระดับหนึ่งกับคอเกมส์ .. แต่สำหรับท่านที่ชอบเม้าส์เร็วๆ แรงๆ .. อาจจะต้องการมากกว่านี้อีกก็เป็นได้ครับ .. เอาเป็นว่า 3200dpi นั้น ก็เป็น Standard ของเม้าส์ Gaming แล้วกันครับจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ เจ้า Roccat Kone นั้น สามารถปรับสีไฟ LED ได้ทุกจุดของเม้าส์เลยเชียวครับ.. ส่วนปัญหานั้นก็คือ ตอนที่เราได้รับมานั้น Driver ไม่ Support กับ Windows 7 หน่ะสิ .. ทำให้ผมไม่สามารถนำภาพมาให้ดูได้ .. แต่เมื่อของถูกส่งคืนไปแล้วนั้น .. ทางหน้าเว็ปหลักของ Roccat ก็ได้ลง Driver ตัวใหม่ที่ Support วินโดวส์ 7 ซะอย่างนั้นเลยครับ .. ก็เลยอดเห็นไฟ LED เปลี่ยนสีกันเลยครับ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงจริงๆ
ก่อนอื่นนะครับ กระผมขอแนะนำเจ้า Roccat Kone แบบคร่าวๆ ก่อนแล้วกันครับ (จริงๆ อาจจะไม่คร่าวก็ได้)
Roccat Kone นั้น มี ความละเอียด 3200dpi อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น.. และยังมีเทคโนโลยี Tracking Control Unit ทำให้การลากเม้าส์นั้น สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดการกระตุกครับระยะเวลาการตอบสนองก็ 1ms เท่านั้นเองครับ และแถมเจ้าเม้าส์ตัวนี้ ก็มี ความจำ 128kb ในตัว ไว้จำ Profile หรือการตั้งค่าปุ่มต่างๆ ที่ผู้ใช้จัดการด้วยครับรายละเอียดแบบจริงๆ จังๆ ที่ผมได้ลอกมาจากหน้าหลักของเว็ป Roccat ก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ
True 3200dpi laser sensor
TCU – Tracking Control Unit
1ms response time; 1000Hz polling rate
16-bit data channel; 7080fps; 6.4 megapixel, 20g acceleration
72MHz TurboCore processor unit
128kB memory, update-/flashable
1.65m/s(65 inch per second)
Extended USB cable, cable diameter: 3mm
Package & Bundled


Package ที่ให้มานั้น ก็ไม่หวือหวาอะไรมากมาย สไตล์ เยรมัน มิใช่ จีนแดงประกอบด้วย ลูกตุ้มถ่วงน้ำหนัก 5g 10g 15g 20g แผ่นไดรเวอร์ - คู่มือ และสุดท้าย ที่ขาดไม่ได้ คือ เจ้า Roccat Kone นั้นเอง (ถ้าขาดไป ขายแต่ Bundle คงจะมีคนซื้อเนอะ)
Weight System

Weight System หรือตัวถ่วงน้ำหนักนั้น ก็มีมาให้ 4 ก้อนด้วยกันครับ โดยที่ มีน้ำหนักตั้งแต่ 5กรัม 10กรัม 15กรัม และ 20กรัมครับส่วนพื้นที่ ที่ใส่นั้น ก็จะอยู่ใต้ฐานเม้าส์ ที่กระผมจะแสดงให้ดูในภาพด้านล่างนั่นเองครับ

ตรงนี้แหละครับ ช่องที่ไว้สำหรับใส่ถ่วงน้ำหนัก อยู่ใต้เม้าส์นั่นเองครับ, และในรูปเราได้ใส่น้ำหนัก 10 กรัมลงไปครับเอาจริงๆ แล้วผมคงต้องพูดซักนิดหนึ่งว่า .. 20g ถึงแม้จะหนักสุด .. แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรขึ้นมาเลยครับ สำหรับผม มันต้องอย่างน้อย 50g นู่น ถึงจะรู้สึกถึงความหนัก .. ให้มา 20g คงไม่ช่วยอะไรซักเท่าไหร่ ส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนชอบเม้าส์หนักๆ ครับ ทำให้ผมไม่ค่อยโดนใจเม้าส์ เบาๆ ซักเท่าไหร่ (แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล)

สำหรับรูปร่างของเจ้า Roccat Kone นั้นก็ได้ออกแบบมาให้สำหรับผู้ใช้ที่ถนัดมือขวาเสียมากกว่า .. ด้วยความที่ปุ่ม สองปุ่ม ที่สามารถตั้งค่าได้ นั้นได้อยู่ทางฝั่งซ้าย (ซึ่งสองปุ่มนี้จะอธิบายในหน้าต่อไปนะครับ)สำหรับวัสดุนั้น ก็ถือว่าดีเลยทีเดียวครับ เพราะจะเป็นพลาสติกคล้ายๆ ยางหนืดมือ ป้องกันลื่นได้เป็นอย่างดี .. แต่คนเหงื่อเยอะ อาจจะรำคาญได้นะครับ